เบ็นเท็น: พลังเอเลี่ยน

[Poseidon]

ตัวละคร
ตัวละครหลัก

เบ็น และ จูลี่เบ็นจามิน "เบ็น" เท็นนีย์สัน
ห้าปีผ่านไปจากตอนจบของเบ็นเท็น เบ็นถอดออมนิทริกซ์ออก ใช้ชีวิตแบบเด็กวัยรุ่นทั่วไป แต่เมื่อปู่แม็กซ์หายตัวไป เบ็นจึงต้องกลับมาสวมออมนิทริกซ์อีกครั้ง เบ็นในอายุ 15 ปีนั้นมีความเป็นผู้ใหญ่สูง เขาเลิกทะเลาะกับเกวน ได้เรียนรู้การทำงานร่วมกันเป็นทีมจากการเป็นผู้รักษาประตูให้ทีมฟุตบอลประจำโรงเรียน และเขาเริ่มชำนาญในการใช้ออมนิทริกซ์มากขึ้นและเคารพปู่แม็กซ์ยิ่งกว่าเดิม
เบ็นชอบน้ำผัก-ผลไม้ปั่นของ ร้าน Mr.Smoothy กับ เฟรนฟรายด์แซ่บเป็นพิเศษ

เกวนโดลิน "เกวน" เท็นนีย์สัน
เกวนในอายุ 15 ปีมีความชำนาญในเวทมนตร์มากขึ้น (ไม่ท่องร่ายคาถา ไม่ต้องใช้หนังสือจด เวลาสร้างเกราะป้องกัน จะเป็นเกราะลักษณะคล้ายกับแก้วสีชมพู และเวลาสร้างบันไดเวทมนตร์จะเป็นบันไดสีชมพู) และใช้ประโยชน์ได้หลายทางมากขึ้น (เช่น แกะรอย,นำทาง) มีความเป็นผู้ใหญ่และสงบเสงี่ยมมากขึ้นกว่าเดิม เกวนมีความสามารถด้าน คาราเต้ และ เก่งเรื่องการเรียน และ เธอเลิกทะเลาะกับเบ็นเหมือนตอนเด็กๆ เกวน ชอบดอกไม้เคอร์ซัส และ กุหลาบสีเหลืองเป็นอย่างมาก

เควิน และ เกวนเควิน อีธาน เลวิน
อดีตศัตรูเก่าของเบ็นที่ออกมาจากมิตินัลได้ได้กลายมาเป็นนักค้าอาวุธในภาคนี้เขาอายุ 16 ปี เขาถูกพวกไฮบรีดและอัศวินอมตะหักหลัง จึงร่วมเดินทางกับเบ็นเพื่อชดใช้ความผิด แต่เหตุผลที่แท้จริงคือเขาต้องการจะเป็นช่างประปรเหมือนพ่อของเขา ตอนนี้เขามีความสามารถในเปลี่ยนสสารตัวเองให้เป็นไปตามที่มือเขาสัมผัสได้ (สัมผัสเหล็กก็กลายเป็นเหล็ก, สัมผัสดินก็กลายเป็นดิน)แต่ในตอนล่าสุด เควินพยายามจะเจาะออมนิทริกซ์แล้วเกิดโอเวอร์โหลด ทำให้ร่างกายเขากลายเป็นสสารทุกชนิดที่เขาเคยสัมผัสผสมปนกันไปทั่วร่างกายและไม่สามารถคืนร่างได้แต่ได้ความสามารถใหม่มาแทน คือ สามารถเปลี่ยนร่างกายให้กลายเป็นอาวุธ เควินหลงรักเกวนแต่ไม่เคยบอก จนทำให้เกวนห่างเหินเควินบ้างในบางครั้ง เควินกลับตัวกลับใจเป็นฝ่ายดี และ เลิกสู้กับเบ็น และทำตัวเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน เควิน มีนิสัยชอบการต่อสู้ และ รักรถซิ่งของเขามากๆจึงไม่อนุญาตให้ใครขับทั้ง้นั้น
จูลี่ ยามาโมโตะ
จูลี่ เพื่อนอายุ 15 ปี วัยเดียวกับ เบ็น และ เกวน เธอเป็นคนรู้ความจริงเกี่ยวกับพลังทั้ง 3 คน และเป็นแฟนกับ เบ็น เธอมีนิสัยรักสัตว์และจะคอยช่วยเหลือทั้ง 3 คน โดยเข้าร่วมฉากตอนในบางครั้ง และ มีชิพเป็นสัตว์เลี้ยงในการต่อสู้ จูลี่ชอบกินเฟรนฟรายด์แซ่บเหมือนเบ็น และชอบกีฬาด้าน เทนนิส
แม็กซ์เวลล์ "แม็กซ์" เท็นนีย์สัน
ปู่แม็กซ์ใน 5 ปีข้างหน้าต้องออกเดินทางเพื่อสืบคดีพวกไฮบรีดและหายตัวไป (เป็นปู่ของ เบ็น และ เกวน) โดยเขาได้ปรากฏตัวออกมาในบางตอนเพื่อช่วยพวกเบ็น กับ เหล่าร้ายที่รวมตัวกันที่เยอะเกินกว่า ทั้ง 3 จะสู้ได้ ปู่แม็กซ์ได้บุกเข้าไปในฐานทัพของไฮบรีดเพื่อจะระเบิดทั้งฐานในรัศมี 100 ไมล์ด้วยระเบิดที่ได้จากการถอดเลนส์ของปืนเปิดประตูมิตินอล แต่ตัวเองก็ต้องระเบิดไปด้วย ในตอนต่อมาเบ็นพบว่า ปู่แม็กซ์ไม่ได้ถูกระเบิดระเบิดทึ้งไปแต่ถูกส่งมาในมิตินอลแทน และปู่แม็กซ์ก็พบว่า นาวอยด์ (Dr. Animal)ที่มีพลังมหาศาลจะแหกประตูมิตินอลออกไป ด้วยความช่วยเหลือของเบ็นและเอเลี่ยนที่อยู่ในนั้นทำให้สามารถเอาชนะมาได้ แต่ปู่แม็กซ์ปฏิเสธที่จะออกจากมิตินอลเพราะต้องการดูแลที่นี้ไปอีกซักพัก ภายหลังปู่แม็กซ์ก็ออกมาได้
ชิพ
สัตว์ต่างดาวชนเผ่ากัลวานิคเมคโคมอร์ฟซึ่งถูกแบ่งร่างมาจากชาวกัลวานิคเมโครมอร์ฟที่ชื่อเบเซลเพื่อขอความช่วยเหลือแล้วยกให้เบ็นเลี้ยงดู ถูกเลี้ยงโดยจูลี่ นอกจากจะสามารถรวมตัวกับเทคโนโลยีอื่นยังสามารถแปลงร่างเป็นสิ่งที่เคยรวมตัวแล้วอีกด้วย เช่น เครื่องปิ้งขนมปัง ลูกบอล ยานรบ
=== ตัวละครรอง ===

อลัน
ลูกหลานของช่างประปาที่เบ็นเจอเป็นคนแรก สามารถแปลงร่างเป็น "ฮีทบราสท์" ได้ แต่ถ้าหากอยู่ในอากาศที่เย็นเกินไปจะไม่สามารถแปลงร่างได้ เขาได้ตราช่างประปามาจากพ่อของเขาซึ่งคาดว่าจะเป็นเอเลี่ยนสายพันธ์เดียวกับฮีทบราสท์ เอเลนมีความแบบเดียวกับฮีทบราสท์ทุกอย่างเว้นแต่เขาบินไม่เก่ง(แต่ดูแล้ว เขาท่าทางจะบินเก่งกว่าเบ็นซะอีกเวลาถูกกดดัน)แต่เบ็นก็ได้สอนให้เขาใช้หินเป็นพาหนะแทน
ไมเคิล
ไมเคิล หรือ มอร์นิ่งสตาร์ ลูกหลานช่างประปาอีกคน สามารถยิงลำแสงที่เปล่งประกายได้ เวลาเหาะไปไหนก็มีแสงคลุมรอบตัว แหล่งพลังงานของเขา คือ พลังของผู้หญิง ทำให้ไมเคิลสนใจเกวนเป็นพิเศษและหลอกดูดพลังของเกวนไปแต่เกวนก็เรียกพลังคืนมาได้และถูกตัดสิทธิในการเป็นช่างประปา ในตอนต่อมาไมเคิลกลับมาอีกครั้งในชื่อของ ดาร์คสตาร์ คราวนี้เขาสามารถดึงพลังของทุกคนมาได้แม้แต่พลังของเบ็นและเควินเขาใส่หน้ากากเหล็กเพื่อปิดบังใบหน้าของเขา ต่อมาถูกจองจำในมิตินอลภายหลังก็ถูกปล่อยออกมาเพื่อมาช่วยเบ็นรบกับกองทัพไฮบรีดในตอนล่าสุด
เวอโดน่า
ภรรยาของปู่แม็กซ์และเป็นย่าแท้ๆของเบ็นและเกวน เธอเป็นเอเลี่ยนจากต่างดาวชื่อว่า เอนโนได ที่มีอำนาจเวทมนตร์ เป็นสาเหตุที่เกวนใช้เวทมนตร์ได้ ทำให้ย่าเวอโดน่าต้องการจะพาเกวนกับดาวบ้านเกิดแต่เกวนปฏิเสธและบอกถึงความรู้สึกดีๆที่มีให้คนรักเหมือนย่าเวอโดน่ากับปู่แม็กซ์ทำให้เธอเปลี่ยนใจยอมให้เกวนอยู่ทีโลกต่อ
แคช & เจ.ที.
เพื่อนๆของเบ็นจากภาคก่อน ทั้งสองเป็นเพื่อนรักกันแต่มีนิสัยชอบเล่นชอบแกล้งเหมือนเดิม เมื่อถูกเบ็นดูถูกและโดนหัวเราะจากเพื่อนๆทำให้แคชไม่ชอบเบ็นซักเท่าไร



พาราดอกซ์
นักวิทยาศาสตร์ที่ทำการทดลองเกี่ยวกับแร่ควอร์ดแล้วเกิดการผิดพลาดจนทำให้ตัวเองกลายเป็นมนุษย์กาลเวลาและเป็นอมตะ เคยร่วมมือกับเบ็นช่วยโลกไว้หลายต่อหลายครั้ง
คูเปอร์
เพื่อนเบ็นและเกวนจากภาคเก่า คูเปอร์สามารถเคลื่อนสิ่งของและสร้างเทคโนโลยีด้วยพลังจิตแล้วยังสามารถก๊อปปี้ความสามารถของออมนิทริกซ์มาสร้างเป็นอาวุธได้ด้วย เช่น คูเปอร์เห็นเบ็นกำลังซ่อมแซมรหัสพันธุกรรมอยู่ทำให้สามารถเปลี่ยนหุ่นยนต์ของตนให้กลายเป็นปืนที่หากยิงพวก DNAlien จะทำให้พวกมันกลายเป็นมนุษย์ตามเดิม มักจะเก็บตัวอยู่ในห้องทดลองของตัวเองตลอดเวลาเพื่อสร้างสิ่งประดิษฐ์ต่างๆ ปัจจุบันจะเห็นว่าคูเปอร์อ้วนขึ้นและเขายังแอบชอบเกวนอีกด้วย
แอสมัท
ผู้สร้างออมนิทริกซ์ สายพันธ์กัลวาน มีนิสัยทะนงตัว
อบีโด่
ลูกน้องอีกคนของแอสมัท สายพันธ์กัลวาน เขาแอบสร้างออมนิทริกซ์ของตัวเองอย่างลับๆและพอเขาสวมมัน ออมนิทริกซ์ของเบ็นที่เป็นต้นแบบก็ส่งรหัสพันธุกรรมมาที่ออมนิทริกซ์ของอบีโด่ ทำให้เขากลายร่างเป็นเบ็นและยังมีนิสัยท่าทางทุกอย่างเหมือนกับเบ็นอีกด้วย เช่น ชอบกินเฟรนด์ฟรายแซ่บ อบีโด่ต้องการคืนร่างเดิมจึงไปหาเบ็นเพื่อเอาออมนิทริกซ์ของเบ็นมาแก้ไขรหัสพันธุกรรมของตนระหว่างการต่อสู้ออมนิทริกซ์ของทั้งคู่เกิดคำนวณรหัสพันธุกรรมของกันและกันและปล่อยพลังออกมาทำให้อบีโด่เปลี่ยนรูปร่างไปเล็กน้อยแต่ยังอยู่ในรูปเบ็น แล้วแอสมัทก็มาและปิดออมนิทริกซ์ของอบีโด่ ทำให้เขาติดอยู่ในร่างเบ็นตลอดกาล
เหล่าร้าย
ไฮบรีด
ศัตรูตัวฉกาจของเบ็น โดยไฮบรีดเป็นหัวหน้าของเหล่า ดีเอ็นเอเลี่ยน สามารถบินได้ และแข็งเกร่งที่จะเอาชนะ เป็นตัวร้ายที่เก่งกาจที่สุดที่เบ็นสู้ด้วย แต่มีไฮบรีดที่ชื่อ ไบรลี่ (เบ็นตั้งชื่อให้)จากตอน Alone Togetherและชาวdnaเลี่ยน ที่ได้สัญญาเป็นพันธมิตรกับเบ็นในตอน War of the worlds:Part 2
DNAlien (ดีเอ็นเอเลี่ยน)
เป็นศัตรูตัวร้ายของเหล่าช่างประปา สามารถปล่อยเมือกเหลว ให้ติดหนึบกับเหยื่อ ชอบอยู่ที่เย็นๆ และ และในฤดูกาลแรกๆ มักเห็นดีเอ็นเอเลี่ยนจะสร้างหอคอยปรับอากาศยักษ์ เดิมที DNAlien ทุกตัวคือมนุษย์ที่ถูกครอบงำด้วยหัวโขน ( ดูได้ในตอน Max Out) ปัจจุบันเบ็นได้ใช้ระบบใหม่ในออมนิทริกซ์ซ่อมแซมรหัสพันธุกรรมพวก DNAlien ให้กลับเป็นมนุษย์ได้ส่วนหนึ่ง
อัศวินอมตะ
ศัตรูตัวร้ายของ เบ็น และ เกวน จากภาคเก่า เบ็นเคยร่วมมือกับพวกอัศวินอมตะเพื่อจะจับมังกรที่หนีไป แต่เบ็นมารู้ทีหลังมามังกรตัวนั้นก็คือเอเลี่ยนจากต่างดาวและต้องการจะกลับบ้าน เบ็นจึงทรยศพวกอัศวินอมตะแล้วปล่อยให้มังกรขี่ยานอวกาศหนีไป

ออมนิทริกซ์ (อังกฤษ: Omnitrix) เป็นอุปกรณ์ของมนุษย์ต่างดาว จากการ์ตูนทีวีแอนิเมชันของประเทศสหรัฐอเมริกาเรื่องเบ็นเท็น มีลักษณะคล้ายๆกับกำไลข้อมือ ซึ่งเบ็น ตัวเอกของเรื่องหรือตัวละครอื่นๆในเรื่อง ใช้มันเปลี่ยนร่างเป็นเอเลี่ยนที่ถูกเก็บอยู่ข้างใน ซึ่งนิสัยมักจะนึกคิดของตัวเองอยู่เสมอ

ประวัติ
ในภาพยนตร์ Secret of the Omnitrix ได้เปิดเผยว่าออมนิทริกซ์ถูกสร้างโดยแอซมัท (ชนเผ่ากัลวาน) โดยมีผู้ช่วยชื่อไมแอกซ์ (ชนเผ่า Chimera Sui Genesis (บ้านเกิดของวิวแก็กซ์)) มีเอเลี่ยนในออมนิทริกซ์มากว่า 1 ล้านตัว แต่มีอยู่ 1,000,903 ตัว ที่พร้อมใช้ โดยจุดประสงค์ในการสร้างก็เพื่อให้ผู้สวมใส่สามารถเปลี่ยนร่างเป็นเอเลี่ยนพันธุ์อื่นๆ เพื่อใช้เชื่อมความสัมพันธุ์กันระหว่างเอเลี่ยนแต่ละพันธุ์ ในตอน War of the worlds:Part 1 ในเบ็นเท็น: พลังเอเลี่ยน แอสมัสได้กล่าวไว้ ที่จริงออมนิทริกซ์เปรียบเสมือนเรือโนอาร์ และออมนิทริกซ์ถูกสร้างขึ้นเพื่อไม่ให้เผ่าพันธุ์ต่างๆในจักรวาลสูญพันธุ์ไปเพราะไฮบรีด

ลักษณะเฉพาะ
ออมนิทริกซ์มีลักษณะทรงกระบอกคล้ายๆกับกำไลข้อมือ มีหน้าปัดที่มีสัญลักษณ์คล้ายๆกับนาฬิกาทรายอยู่ตรงกลาง และมีปุ่มรอบๆอยู่สี่ปุ่ม เมื่อถูกใช้งานสัญลักษณ์ตรงกลางจะถูกเปลี่ยนเป็นสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัดและจะมีเงาของเอเลี่ยนอยู่ข้างใน โดยเมื่อถูกใช้งานโดยกดปุ่มทั้งสองข้าง หน้าปัดจะถูกยกขึ้นและผู้ใช้สามารถหมุนเพื่อเลือกเอเลี่ยนได้ตามต้องการ และเมื่อกดมันกลับคืนก็จะสามารถเปลี่ยนผู้ใช้เป็นเอเลี่ยนตัวนั้นๆได้ ปุ่มสี่ปุ่มที่อยู่รอบๆหน้าปัดทำหน้าที่เป็นตัวใส่รหัส และเมื่อใส่ถูกต้องก็จะสามารถปลดล๊อคเอเลี่ยนพันธุ์ใหม่ออกมา ออมนิทริกซ์มีสีการทำงานห้าสี คือ สีเขียวหมายถึงพร้อมใช้งาน สีแดงหมายถึงอยู่ในระหว่างชาร์จพลังงาน สีเหลืองหมายถึงกำลังเพิ่มเอเลี่ยนพันธ์ใหม่เข้าไปในออมนิทริกซ์ สีส้มหมายถึงออมนิทริกซ์เปิดระบบทำลายตนเอง (ตอนแรกจะปรากฏสีส้มบริเวณขอบของหน้าปัดรูปนาฬิกาทรายก่อน แล้วจะค่อยๆเพิ่มมาเรื่อยๆตามเวลา เวลาจะเพิ่มเร็วขึ้นเมื่อมีการแปลงร่าง) และสีน้ำเงินหมายถึงออมนิทริกซ์กำลังแปลงสภาพ (จะปรากฏขึ้นในภาคเบ็นเท็น: พลังเอเลี่ยน)

การใช้งาน
หลังจากที่หน้าปัดถูกกดลงไป ออมนิทริกซ์จะปลดปล่อยพันธุกรรมของเอเลี่ยนตัวนั้นๆให้กับผู้ใส่ ทำให้ผู้ใส่เปลี่ยนร่างเป็นเอเลี่ยนตัวนั้นๆแค่เฉพาะร่างกาย, เสียง และความสามารถบางส่วน (เช่น ทนไฟ, ประสาทการดมกลิ่น) รวมถึงสูญเสียความสามารถบางอย่าง (ขนาดร่างกาย, การมองเห็น) ในการทำงานของออมนิทริกซ์ในแต่ละครั้งจะมีเวลาใช้งานประมาณ 10 นาที

ในตอน "Back with a Vengeance" เบ็นบังเอิญปลดล็อกความสามารถในการเปลี่ยนร่างเป็นเอเลี่ยนได้นานเท่าไรก็ได้และยังสามารถเปลี่ยนเอเลี่ยนตัวอื่นได้โดยไม่ต้องแตะออมนิทริกซ์ (ใช้แค่ความคิด) แต่ถึงในตอนนี้วิวแก็กซ์ได้ถอดออมนิทริกซ์ออก และเมื่อออมนิทริกซ์กลับมาติดข้อมือเบ็นเช่นเดิม ความสามารถนี้จึงถูกรีเซ็ทออกไปแล้ว แต่ต่อมาเบ็น เท็นทาวนด์ซัน ในตอน "Ben 10,000" ก็มีความสามารถนี้ แสดงให้เห็นว่าระบบนี้สามารถปลดล็อกใหม่ได้ในอนาคต

ออมนิทริกซ์นั้นมีพันธุกรรมของเผ่าพันธุ์เอเลี่ยนต่างๆทั่วจักรวาล ดังนั้นในบางครั้งจะมีตัวละครที่เป็นเผ่าพันธุ์เดียวกับเอเลี่ยนที่อยู่ในออมนิทริกซ์ เช่น เทแทร็กซ์ (เพโทรซาเปียน) ไทนี่ (เททรามานด์) อีกทั้งในภาพยนตร์ Secret of the Omnitrix ในช่วงที่เบ็นบุกเข้าไปในเรือนจำอินคาสซิคอน จะเห็นว่ามีเอเลี่ยนสายพันธุ์เดียวกับในออมนิทริกซ์ปรากฏมา มีตั้งแต่กัลวานิคเมคโคมอร์ฟ (อัพเกรด),เลพิดอบเทอร์ราน (สติงก์ฟลาย),เททรามานด์ (โฟร์อาร์มส์),ฟลอร่าฟอน่า (ไวล์ดไวน์),พิซซิส โวลานน์ส (ริพจอว์) และ กัลวาน (เกรย์ แมตเทอร์) ก็ปรากฏตัวมาในช่วงท้ายของเรื่อง

เหล่าเอเลี่ยนในออมนิทริกซ์นั้นจะมีบุคลิกภาพอยู่ข้างใน เช่น โกสท์ฟรีค (บุคลิกภาพถูกขังไว้ในออมนิทริกซ์) และในตอน "And Then There Were 10" ที่เบ็นบอกว่าเมื่อเขากลายร่างรู้สึกมีอีกคนอยู่ข้างใน หรือในหลายๆตอนจะพบว่าเบ็นมีการเปลี่ยนแปลงในอุปนิสัยเล็กน้อยเมื่อเปลี่ยนร่าง

โดยพื้นฐานแล้วไม่ว่าใครก็ตามที่ใช้ออมนิทริกซ์จะเปลี่ยนสภาพตามเอเลี่ยนนั้นๆ แต่จะมีรายละเอียดบางส่วนที่ยังคงไว้ตามที่ผู้ใส่เป็น ดังเห็นจากตอน "Gwen 10" จะพบว่าฮีทบลาสท์ของเบ็นกับของเกวนจะมีลักษณะคล้ายๆกัน แต่ของเกวนจะมีสรีระที่เป็นผู้หญิง รวมทั้งไดมอนด์เฮดของเบ็นกับเกวนจะพบว่า ของเกวนจะมีขนาดร่างกายที่เรียวกว่าและไม่มีเพชรตรงด้านหลังเหมือนของเบ็น รวมทั้งเกรย์แมตเตอร์และโฟร์อาร์มส์ ที่ของเกวนจะมีเส้นผมและใส่เสื้อผ้าของเธอเอง ซึ่งแสดงให้เห็นว่ารายละเอียดปลีกย่อยของเอเลี่ยนจะเปลี่ยนไปตามผู้ใช้ นอกจากนั้นในตอน "Ben 10,000" เอเลี่ยนของเบ็นในอนาคตจะดูมีพลังและแกร่งมากกว่าในปัจจุบัน ซึ่งเป็นเพราะอายุของเบ็นและความชำนาญของเขาก็เป็นได้

ต่อมาในฤดูกาลที่ 3 ได้เปิดเผยถึงระบบเพิ่ม DNA ของเอเลี่ยน โดยเมื่อเอเลี่ยนที่ยังไม่มีข้อมูลในออมนิทริกซ์สัมผัสกับออมนิทริกซ์ ออมนิทริกซ์จะถูกเปลี่ยนเป็นสีเหลืองและหมุนรอบๆระยะหนึ่ง จากนั้นกลับมาสีเขียวเหมือนเดิม แสดงให้เห็นว่าได้ทำการดูดกลืน DNA มาแล้ว

คุณสมบัติอื่นๆ
ในภาพยนตร์ Secret of the Omnitrix ได้เปิดเผยถึงระบบอื่นๆของออมนิทริกซ์ ได้แก่ ระบบทำลายตัวเอง เมื่อระบบทำลายตัวเองถูกทำงานขึ้นหน้าปัดจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองแดงและจะมีแถบสีมากขึ้นเรื่อยๆเหมือนเป็นการนับถอยหลัง ทุกครั้งที่มีการใช้งานออมนิทริกซ์ หลังจากเปลี่ยนกลับปรกติ ออมนิทริกซ์จะปล่อยพลังงานออกมา และปล่อยออกมามากขึ้นเรื่อยๆจนสามารถทำลายทั้งจักรวาลได้ ระบบนำทางกลับบ้าน ออมนิทริกซ์สามารถชี้ทางไปหาผู้สร้างของมันได้ โดยตอนแรกหน้าปัดจะหมุนคล้ายๆเข็มทิศ และเมื่อเข้าใกล้มากพอก็จะยิงลำแสงไปยังสถานที่ที่ผู้สร้างอยู่ คุณสมบัติอีกอย่าง ระบบซ่อมแซมดีเอ็นเอจะปรากฏอยู่ในเบ็นเท็น: พลังเอเลี่ยน ใช้ซ่อมแซมดีเอ็นเอที่ถูกแทรกแซงหรือที่เสียหาย ให้กลับมากลายเป็นมนุษย์หรือเผ่าพันธุ์นั้นๆอย่างเดิม

คุณสมบัติการแปรสภาพ
ในการเปลี่ยนสภาพของออมนิทริกซ์ หน้าปัดจะเปลี่ยนเป็นสีฟ้า แล้วทำการเปลี่ยนสภาพ ในภาคที่ 1 2 3 และ 4 ของ Ben10 ออมนิทริกซ์ในตอนนั้นจะใหญ่กว่านาฬิกาปกตินิดหน่อย ครั้งที่2 ออมนิทริกซ์จะคล้ายนาฬิกา ครั้งที่3 ออมนิทริกซ์เป็นเหมือนท่อสวมมือ ไฟล์:Ben-10-ultimate-alien.jpg

ร่างของเอเลี่ยน
เบ็นเท็น
ร่างพื้นฐาน
ในฤดูกาลแรกออมนิทริกซ์สามารถเปลี่ยนร่างได้เพียง 10 ร่าง มีดังนี้

ฮีทบลาสท์
ชื่อภาษาอังกฤษ
Heatblast
ข้อมูล
ฮีทบลาสท์เป็นชนเผ่าไพโรไนท์ (มาจากคำว่า Pyro แปลว่าไฟ) มาจากดาวชื่อไพรอส ร่างฮีทบลาสท์เป็นร่างที่ถูกสร้างมาจากไฟ จึงมีความสามารถทนต่อพลังไฟทุกชนิด นอกจากนั้นยังสามารถควบคุมไฟได้ แต่เมื่อเกิดเป็นหวัดขึ้นมา ฮีทบลาสท์จะเปลี่ยนจากการควบคุมไฟมาเป็นน้ำแข็งแทน

ปรากฏตัวครั้งแรก
ตอน "And Then There Were 10" ซึ่งเบ็นเปลี่ยนร่างโดยบังเอิญขณะพยายามถอดออมนิทริกซ์
จุดเด่น
ควบคุม, ยิง, และดูดพลังไฟจากตรงไหนก็ได้ในร่างกาย
สามารถยืนบนไฟและใช้มันในการเดินทางได้
สร้างม่านควัน
เดินทางได้อย่างรวดเร็วผ่านหลุมไฟ

จุดด้อย
เมื่อไฟถูกดับ, อุณหภูมิตก เขาจะตาย (แต่ถ้าไม่ เขาก็สามารถจุดไฟขึ้นใหม่ได้)
ร่างกายมีอุณหภูมิสูงตลอดเวลา โดยที่เขาเองก็ควบคุมไม่ได้

อื่นๆ
เมื่อเป็นหวัดจะควบคุมน้ำแข็งแทน
ร่างของเกวนจะคล้ายๆของเบ็น ยกเว้นจะมีสรีระแบบผู้หญิง
ร่างของเบ็นในอนาคต จะมีร่างกายที่กำยำกว่า และมีไฟบริเวณไหล่
ในตอนDr.Animo and the mutant ray ฮีทบลาสต์ผสมกับริพจอว์ จึงกลายเป็น "ฮีทจอว์"

ไวลด์มัทท์
ชื่อภาษาอังกฤษ
Wildmutt
ข้อมูล
ไวลด์มัทท์เป็นชนเผ่าไวพลิแมนเซอร์จากดาววูพลิน (มาจากคำว่า Vulpine แปลว่าสุนัขจิ้งจอก) เมื่อยู่ในร่างไวลด์มัทท์ เบ็นจะสูญเสียประสาททางสายตาไป แต่จะทดแทนด้วยประสาทดมกลิ่นที่อยู่ข้างๆปากของไวลด์มัท์ ร่างไวลด์มัทท์เป็นร่างที่มีความคล่องตัวและประสาทสัมผัสสูง

ปรากฏตัวครั้งแรก
ตอน "And Then There Were 10" ซึ่งเบ็นทดสอบออมนิทริกซ์ นับเป็นการเปลี่ยนร่างอย่างตั้งใจครั้งแรก
จุดเด่น
มีความคล่องตัวสูง
มีประสาทสัมผัสทางเสียง, กลิ่นและรสสูงมาก
* สัมผัสมนุษย์ที่อยู่ไกลออกไปได้

จุดด้อย
มีผลกระทบต่อเสียงดังและกลิ่นแรงๆ
ไม่มีตา จึงใช้การดมกลิ่นเอา
ถ้ารูจมูกถูกปิดจะมองไม่เห็น (ช่วงเป็นหวัด)
ไม่ได้พูดภาษามนุษย์ จึงสื่อสารกับคนอื่นไม่ได้

อื่นๆ
ร่างของเบ็นในอนาคตจะดูเหมือนไวพลิแมนเซอร์มากกว่าร่างในปัจจุบัน

ไดมอนด์เฮด
ชื่อภาษาอังกฤษ
Dimondhead
ข้อมูล
ไดมอนด์เฮดเป็นชนเผ่าเพโทรซาเปียน (มาจากคำว่า Petro แปลว่าปิโตรเลียมและ Sapien เป็นศัพท์วิทยาศาสตร์ใช้เรียกเผ่าพันธุ์ที่ใกล้เคียงมนุษย์) มาจากดาวเพโทรเปีย ซึ่งปกคลุมด้วยคริสตัล ร่างของเพโทรซาเปียนทำจากคริสตัลและเป็นร่างที่แตกหักได้ แต่ร่างจะสามารถฟื้นคืนสภาพได้ (จะมีขีดจำกัดในการคืนสภาพด้วย) และแปรสภาพได้หลากหลายรูปแบบเพราะทำจากคริสตัลร่างนี้จึงสามารถสะท้อนหรือหักเหการโจมตีด้วยลำแสงทุกชนิด

ปรากฏตัวครั้งแรก
ตอน "And Then There Were 10" เมื่อเบ็นต้องแปลงร่างเป็นไดมอนด์เฮดเพื่อทำลายหุ่นของวิวแก็กซ์
จุดเด่น
ป้องกันการโจมตีได้ทุกรูปแบบ
เปลี่ยนร่างให้เป็นอาวุธหรือเครื่องมือที่แหลมคมได้
สะท้อนลำแสงทุกชนิด
ยิงแท่งคริสตัลออกจากร่างกาย
สร้างแท่งคริสตัล
ฟื้นร่างกายที่เสียหายได้

จุดด้อย
ร่างกายจะร้าวถ้าโดนคลื่นเสียงความถี่สูง
ร่างกายสามารถแตกหักได้

อื่นๆ
ร่างของเกวนจะไม่มีคริสตัลข้างหลังและมือกับแขนกับขาก็ไม่ใหญ่เท่าแบบของเบ็นและเสื้อจะเป็นสีน้ำเงินเข้มกับนำเงินจางๆ
ในตอน Dr. Animo and the Mutant Ray ไดมอนด์เฮดผสมกับเกรย์ แมตเตอร์ กลายเป็น "ไดมอนด์ แมตเตอร์"
ไดมอนด์เฮดของเบ็นตอนโตสูทของไดมอนด์เฮดจะเปลี่ยนไปโดยด้านบนจะเป็นแถบสีดำ และด้านล่างจะเป็นแถบสีขาว
ดาวเพโทรเปีย ปกคลุมด้วยคริสตัล ดวงดาวไม่ได้เป็นทรงกลม แต่มีลักษณะเป็นแนวตั้ง มีดาวบริวาร 1 ดวง

เอ็กซาลาเรท
ชื่อภาษาอังกฤษ
XLR8
ข้อมูล
เอ็กซาลาเรทเป็นชนเผ่าคิเนเซเลอราน จากดาวเคราะห์คิเนท (จากคำว่า Kinetic แปลว่าพลังงานจลน์) ซึ่งเป็นชนเผ่าที่เกี่ยวข้องกับความเร็วเสมอๆ ร่างเอ็กซาลาเรทนั้นเป็นร่างที่มีความเร็วสูงและร่างนี้ไม่ใช่ร่างที่แข็งแกร่งพอจะต่อสู้ได้ เบ็นมักจะใช้ร่างนี้ในการวิ่งหลบหลีก, วิ่งไปให้ถึงเป้าหมาย หรือใช้ในการถ่วงเวลาศัตรู นอกจากนั้นร่างนี้ยังมีอุปกรณ์ที่ป้องกันการเกิดไฟฟ้าสถิตด้วย เบ็นในอนาคตเมื่อเปลี่ยนร่างแล้ว ร่างจะเป็นสีขาวต่างจากตอนเด็ก และวิ่งได้เร็วมากๆ (เร็วกว่าเสียง)

วิธีการอ่านชื่อของร่างนี้คือ เอ็ก(X) +แอล (L) ได้คำว่า เอ็กซา+อาร์ (R) ได้คำว่า เอ็กซาลา (ร์) +เอด (8) ได้คำว่า เอ็กซาลาเรท

ปรากฏตัวครั้งแรก
ตอน "And Then There Were 10" ซึ่งเบ็นแปลงเป็นร่างนี้เพื่อใช้แก้แค้น "แคชกับเจที" ที่เป็นคู่อริกัน
จุดเด่น
วิ่งเร็วมาก (สามารถวิ่งบนน้ำได้)
การตอบสนองของร่างกายเร็วขึ้น
สร้างพายุโดยการวิ่งเป็นวงกลม
มีมือกรรไกรที่ตัดวัตถุได้โดยผนวกเข้ากับความเร็ว

จุดด้อย
อ่อนแอต่อแม่เหล็ก
ไม่แข็งแกร่งมากนัก
วิ่งบนน้ำแข็งได้ไม่ดี
วิ่งบนที่ไร้แรงดึงดูดไม่ได้

อื่นๆ
ในตอน Ben 10,000 เอ็กซาลาเรทจะเปลี่ยนลายจากสีฟ้าเป็นขาวและจะวิ่งเร็วกว่าเดิม (เร็วกว่าเสียง)

เกรย์ แมตเตอร์
ชื่อภาษาอังกฤษ
Gray Matter
ข้อมูล
เกรย์แมตเตอร์เป็นชนเผ่ากัลวาน (มาจากคำว่า Galvanization แปลว่าชุบสังกะสี) จากดาวเคราะห์กัลวานไพรม์ เกรย์แมตเตอร์เป็นชนเผ่าตัวเล็ก แต่ก็เป็นชนเผ่าที่ฉลาดที่สุดในจักรวาลและเพราะความฉลาดนั้นเองทำให้ร่างนี้เหมาะแก่การวิเคราะห์และหาจุดอ่อนคู่ต่อสู้ แต่ในหลายๆครั้งที่เบ็นเองก็ไม่เข้าใจในสิ่งที่ตนเองพูด และเพราะร่างนี้ไม่ใช่ร่างสำหรับต่อสู้ บ่อยครั้งในเรื่องจะมีมุขตลกที่เมื่อเบ็นต้องการเปลี่ยนเป็นร่างสำหรับต่อสู้ (เช่น โฟร์อาร์มส์) เบ็นมักจะได้กลายเป็นร่างนี้แทนอยู่บ่อยครั้ง

ปรากฏตัวครั้งแรก
ในตอน Washington B.C. เบ็นเปลี่ยนเป็นร่างนี้เพื่อหาการ์ดทองคำของซูโม่ สแลมเมอร์ในกล่องธัญพืช
จุดเด่น
มีความฉลาดสูง สามารถวิเคราะห์จุดอ่อนคู่ต่อสู้ได้
ตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว
ตัวเล็ก จึงวิ่งผ่านที่เล็กๆได้
ร่างกายที่บางและเหนียวสามารถเกาะไต่กำแพงได้
กระโดดได้ค่อนข้างสูง (เทียบกับขนาด)
ฟันคม

จุดด้อย
อ่อนแอ
ไม่สามารถใช้ต่อสู้ได้
ถ้าแปลงร่างโดยไม่ได้ตั้งใจจะเกิดอาการเอ๋อ (ไม่เข้าใจที่ตัวเองพูด)

อื่นๆ
ร่างของเกวนจะมีผมและเสื้อจะเป็นสีน้ำเงินเข้มกับนำเงินจางๆ
เป็นตัวที่โดนใช้งานอย่างไม่ตั้งใจเป็นประจำ
เผ่าพันธุ์ของเกรย์แมตเตอร์เป็นผู้สร้างออมนิทริกซ์

โฟร์อาร์มส์
ชื่อภาษาอังกฤษ
Fourarms
ข้อมูล
โฟร์อาร์มเป็นชนเผ่าเททรามานด์ (Tetra แปลว่า สี่, และ Mand แปลว่า แขน) จากดาวคอรอส ถิ่นกำเนิดเดิมนั้นเททรามานด์อยู่ในสภาพที่ต้องเอาตัวรอด ทำให้ร่างโฟร์อาร์มนี้มีพลังและความแข็งแกร่งสูงและมีกล้ามแขนขนาดใหญ่สี่ข้าง ที่ใช้ต่อกรกับศัตรูได้ทุกรูปแบบ เป็นร่างที่เบ็นใช้มากที่สุด เป็นร่างที่แข็งแรงมากที่สุด พลังกายมหาศาล

ปรากฏตัวครั้งแรก
ตอน Washington B.C. เบ็นเปลี่ยนร่างนี้เพื่อสู้กับช้างแมมมอธยักษ์ที่ดร.แอนิโม่ชุบชีวิตขึ้นมา
จุดเด่น
แข็งแรง
เกราะหนา
มีพลังอึดและพลังกายสูง
กระโดดระยะไกล
สร้างคลื่นเสียงถ้าปรบมือสี่ข้างพร้อมกัน

จุดด้อย
ร่างกายใหญ่เกินไปทำให้ความคล่องตัวลดลงและมีปัญหากับที่แคบๆ
เมื่อเป็นหวัดจะส่งผลต่อต่อมกลิ่นใต้วงแขน

อื่นๆ
ร่างของเกวนจะมีผม และ เสื้อจะเป็นสีน้ำเงินเข้มกับน้ำเงินจางๆ
ในตอน Dr. Animo and the Mutant Ray โฟร์อาร์มผสมกับสติงฟลาย กลายเป็น "สติงอาร์ม" (เกวนเป็นคนพูดชื่อนี้ออกมา)
ในตอน Ben 10,000 สัญลักษณ์ของ ออมนิทริกซ์ จะไปอยู่ที่อก

[hi-sama18]

thanks จ้า ^^